พระนางมารีอา
เราพอจะเล่าประวัติของพระนางมารีอาได้ดังนี้ ท่านนักบุญอากิม(Saint Joachim) และนักบุญอันนา(Saint Anna) เป็นบิดาและมารดาของพระนางมารีอา เดิมไม่มีบุตร เนื่องจากนักบุญอันนาเป็นหมัน ท่านทั้งสองภาวนาต่อพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงฟังคำภาวนาของท่านทั้งสอง จึงได้ให้นักบุญอันนาบังเกิดบุตรี ชื่อว่า มารีอา
พระนางมารีอาถวายตัวแด่พระเป็นเจ้า โดยตั้งใจจะถือพรหมจรรย์ เมื่อถึงเวลาอันควรก็ต้องแต่งงานกับชายคนหนึ่งเพื่อเป็นคู่อุปถัมภ์ พระนางมารีอาได้หมั้นกับนักบุญยอแซฟ ซึ่งเป็นเวลาที่เทวดาคาเบรียลมาแจ้งแก่พระนางว่าจะตั้งครรภ์
เมื่อนักบุญยอแซฟทราบท่านก็ไม่เข้าใจ และคิดจะถอนหมั้นเงียบๆเพราะท่านเป็นคนชอบธรรม แต่เทวดาได้มาแจ้งแก่ท่านในฝันว่า ให้รับพระนางมารีอาไว้เป็นภรรยา เพราะบุตรที่เกิดมาคือองค์พระมหาไถ่ เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นไปโดยอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า
พระนาม "มารีย์" อาจมีความหมายได้ 3 ประการ ดังต่อไปนี้
1. " มารีอา " ภาษาฮีบรู แปลว่า " ดาวทะเล หรือ ดาราสมุทร "
2. " มารีอา" ภาษาซีเรียน แปลว่า " คุณนาย " (Our Lady, Notre Dame, Ma(Mia) Donna)
3. "มารีอา" ภาษาอียิปต์ แปลว่า " ผู้ที่พระเจ้าทรงรัก โปรดปราน"
ในสมัยพระเยซูเจ้ามีผู้ตั้งชื่อนี้กันมาก
คนแรกที่ใช้ชื่อนี้คือพี่สาวของโมเสส(มีเรียม = มารีอา) สมัยชาวอิสราเอล
ตกเป็นทาสของชาวอียิปต์
ในสมัยพระเยซูเจ้ามีผู้ตั้งชื่อนี้กันมาก คนแรกที่ใช้ชื่อนี้คือ พี่สาวของโมเลส (มีเรียม = มารีอา) ในสมัยที่ชาวอิสราเอลตกเป็นทาสของชาวอียิปต์ ตำแหน่ง หรือเกียรติที่คริสตชนนิยมถวายแด่พระนางมารีย์ คือ ตำแหน่งพระแม่ - พระมารดา เป็นตำแหน่งที่มีระบุไว้ในพระวรสาร เมื่อพระเยซูเจ้าจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้มอบยอห์นให้เป็นลูก และมอบพระนางมารีย์เป็นแม่ (เทียบ ยน.19:26-27)
ในสมัยพระเยซูเจ้ามีผู้ตั้งชื่อนี้กันมาก คนแรกที่ใช้ชื่อนี้คือ พี่สาวของโมเลส (มีเรียม = มารีอา) ในสมัยที่ชาวอิสราเอลตกเป็นทาสของชาวอียิปต์ ตำแหน่ง หรือเกียรติที่คริสตชนนิยมถวายแด่พระนางมารีย์ คือ ตำแหน่งพระแม่ - พระมารดา เป็นตำแหน่งที่มีระบุไว้ในพระวรสาร เมื่อพระเยซูเจ้าจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้มอบยอห์นให้เป็นลูก และมอบพระนางมารีย์เป็นแม่ (เทียบ ยน.19:26-27)
พระนางมารีย์ทรงเป็นพระมารดาพระเจ้า (Theotokos – Mater Dei ) สังคายนา แห่งเมืองเอเฟซัส (ค.ศ.431) หมายความว่า พระเยซูเจ้าซึ่งเป็นพระบุตรของพระแม่มารีย์ทรงเป็นมนุษย์แท้และพระเจ้าแท้ พระแม่มารีย์ซึ่งเป็นมารดาของพระเยซูเจ้าทั้งครบ ก็ย่อมได้รับสมญานามว่า มารดาพระเจ้า
พระมารดาเป็นมารดาของชาวเรา ในความหมาย 3 ประการคือ
1) ในความหมายเปรียบเทียบ พระนางมารีย์บำเพ็ญพระองค์เหมือนแม่ ภาวนาวอนขอพระหรรษทานเพื่อลูก
2) ในความหมายเป็นแม่เลี้ยงหรือแม่บุญธรรม เพราะพระเยซูเจ้าทรงยกพระนางให้เป็นแม่ของชาวเรา
3) ในความหมายเป็นแม่จริงๆ คือ ถ่ายทอดวิญญาณให้เรา โดยการให้กำเนิดชีวิตเหนือธรรมชาติ (เป็นผู้ร่วมไถ่บาป)
ความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์ของคริสตชน คือ การที่พระนางทรงเป็นมารดาของชาวเรา
ความศรัทธาต่อแม่พระแสดงออกได้ 3 ทาง คือ
1) การเคารพนับถือพระนาง
2) การวิงวอนของพระนาง
3) การเลียนแบบอย่างพระนาง
อนึ่งความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์ มิใช่การนมัสการ เพราะการนมัสการเราใช้กับ พระเจ้าเท่านั้น เราเคารพนับถือพระแม่มารีย์เป็นพิเศษเหนือนักบุญและเทวดาเท่านั้น
พระนางพรหมจารี เป็นตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่งหนึ่งของพระแม่มารีย์ ในวัฒนธรรมยิวคริสต์ พรหมจารี หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มชนที่ถวายตัวแด่พระเจ้า และยืนหยัดสัตย์ซื่อต่อพระองค์ พรหมจารีต้องเป็นผู้รักษาความบริสุทธิ์ทางกายทั้งครบ เพื่อเป็นเครื่องหมายความสัตย์ซื่อ และการถวายตัวแด่พระเจ้าอย่างแท้จริง การถวายตัวเป็นพรหมจารีเช่นนี้ ทำให้พระนางมารีย์เป็นทั้งพรหมจารีและมารดา เพราะความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าทำให้เกิดความสมบูรณ์ทางวิญญาณ พระคุณพิเศษที่พระแม่มารีย์ได้รับจากพระเจ้าเหนือกว่ามนุษย์ใดๆ คือ การปฏิสนธินิรมล เทวดาคาเบรียลยืนยันพระคุณนี้ โดยการทักทายพระนางว่า วันทามารีอา เปี่ยมด้วยหรรษทาน.......
ทำไม....คริสตชนคาทอลิก
มีความศรัทธาภักดีต่อ “แม่พระ
”
คริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก
มีความศรัทธาภักดีต่อพระนางมารี คริสตชนเรียกว่า “
แม่พระ
”
คำ ว่า “ แม่พระ ” เป็นคำที่ยกย่องพระนางมารีอาตั้งแต่สมัยศตวรรษแรกๆ บรรดาคริสตชนถึงกับถวายพระนามว่า “ พระมารดาพระเจ้า ” ( Mater Dei ) นักเทววิทยาได้อธิบาย และอ้างข้อความในพระคัมภีร์สนับสนุนข้อความเชื่อนี้ และข้อความเชื่ออื่นๆ อีกหลายประการเกี่ยวกับพระนางมารีอา เช่น “ แม่พระเป็นผู้ปฏิสนธินิรมล ” หมายถึง พระนางมารีอาบังเกิดมาในโลกโดยปราศจากบาปกำเนิดได้รับการยกเว้นจากพระเป็น เจ้า มิให้ต้องแปดเปื้อนด้วยบาปความผิดพลาดที่ตกทอดมาจากอาดัมและเอวา
“ แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ” เป็นความเชื่อว่าเมื่อพระนางมารีอาสิ้นใจ ได้รับเกียรติจากพระเป็นเจ้าให้ออกมาจากโลกนี้ พร้อมทั้งร่างกายและวิญญาณไปสู่สวรรค์ คริสตชนยุคแรกๆ เชื่อกันมาดังนี้เป็นเวลายาวนาน ก่อนที่พระสันตะปาปาจะประกาศ เป็นข้อความเชื่อที่คริสตชนต้องเชื่อเสียอีก
แต่คริสตชนมีความศรัทธาภักดีต่อแม่พระ ก็เนื่องจากชีวิตและฤทธิ์กุศล ความดีงามต่างๆ ในชีวิตของพระนาง เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เราในการดำเนินชีวิตคริสตชน ฤทธิ์กุศลที่สำคัญในชีวิตแม่พระคือ ความบริสุทธิ์ หมายถึง พระนางมารีอาบังเกิดมาไม่มีบาปกำเนิด และยังดำเนินชีวิตถือตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าอย่างครบถ้วน ไม่กระทำบาป อีกทั้งได้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยตั้งใจว่าจะถือพรหมจรรย์ แต่พระเป็นเจ้าก็ทรงมีแผนการโดยการใช้ให้เทวดาคาเบรียลมาแจ้งแก่แม่พระว่า พระนางจะตั้งครรภ์และกำเนิดบุตรชาย และให้ตั้งชื่อว่า “ เยซู ” พระนางมารีอาถามว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะพระนางยังเป็นพรหมจารีอยู่ เทวดาตอบว่าการตั้งครรภ์นั้น มิได้เกิดตามธรรมชาติฝ่ายเนื้อหนัง แต่เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า เด็กที่เกิดมาจะเป็นพระผู้ไถ่โลก พระนางมารีจึงตอบว่า “ ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามวาทะของท่าน ” ( ลก.1:38 ) แล้วนั้นพระวจนาตถ์ก็ทรงรับเอากาย และมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา ( ยน. 1: 34 )
คำ ว่า “ แม่พระ ” เป็นคำที่ยกย่องพระนางมารีอาตั้งแต่สมัยศตวรรษแรกๆ บรรดาคริสตชนถึงกับถวายพระนามว่า “ พระมารดาพระเจ้า ” ( Mater Dei ) นักเทววิทยาได้อธิบาย และอ้างข้อความในพระคัมภีร์สนับสนุนข้อความเชื่อนี้ และข้อความเชื่ออื่นๆ อีกหลายประการเกี่ยวกับพระนางมารีอา เช่น “ แม่พระเป็นผู้ปฏิสนธินิรมล ” หมายถึง พระนางมารีอาบังเกิดมาในโลกโดยปราศจากบาปกำเนิดได้รับการยกเว้นจากพระเป็น เจ้า มิให้ต้องแปดเปื้อนด้วยบาปความผิดพลาดที่ตกทอดมาจากอาดัมและเอวา
“ แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ” เป็นความเชื่อว่าเมื่อพระนางมารีอาสิ้นใจ ได้รับเกียรติจากพระเป็นเจ้าให้ออกมาจากโลกนี้ พร้อมทั้งร่างกายและวิญญาณไปสู่สวรรค์ คริสตชนยุคแรกๆ เชื่อกันมาดังนี้เป็นเวลายาวนาน ก่อนที่พระสันตะปาปาจะประกาศ เป็นข้อความเชื่อที่คริสตชนต้องเชื่อเสียอีก
แต่คริสตชนมีความศรัทธาภักดีต่อแม่พระ ก็เนื่องจากชีวิตและฤทธิ์กุศล ความดีงามต่างๆ ในชีวิตของพระนาง เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เราในการดำเนินชีวิตคริสตชน ฤทธิ์กุศลที่สำคัญในชีวิตแม่พระคือ ความบริสุทธิ์ หมายถึง พระนางมารีอาบังเกิดมาไม่มีบาปกำเนิด และยังดำเนินชีวิตถือตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าอย่างครบถ้วน ไม่กระทำบาป อีกทั้งได้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยตั้งใจว่าจะถือพรหมจรรย์ แต่พระเป็นเจ้าก็ทรงมีแผนการโดยการใช้ให้เทวดาคาเบรียลมาแจ้งแก่แม่พระว่า พระนางจะตั้งครรภ์และกำเนิดบุตรชาย และให้ตั้งชื่อว่า “ เยซู ” พระนางมารีอาถามว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะพระนางยังเป็นพรหมจารีอยู่ เทวดาตอบว่าการตั้งครรภ์นั้น มิได้เกิดตามธรรมชาติฝ่ายเนื้อหนัง แต่เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า เด็กที่เกิดมาจะเป็นพระผู้ไถ่โลก พระนางมารีจึงตอบว่า “ ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามวาทะของท่าน ” ( ลก.1:38 ) แล้วนั้นพระวจนาตถ์ก็ทรงรับเอากาย และมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา ( ยน. 1: 34 )
ความสุภาพ
นอบน้อมเชื่อฟัง พระนางมารีอามีความสุภาพ
นอบน้อมเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า อันเป็นฤทธิ์กุศลที่บรรดาคริสตชนพึงมี พระเยซูเจ้าสอนเราให้แสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
ก่อนอื่นใด แล้วที่เหลือ
พระเป็นเจ้าจะแถมให้แก่เราเอง หมายถึง จัดการทุกสิ่งทุกอย่างแก่เราเอง คริสตชนยินดีรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยความนอบน้อมราบ เรียบ ด้วยความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า
ความรัก การยินดีเสียสละน้ำใจตนเอง เพื่อรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิตคริสตชน เพราะรักพระเป็นเจ้า พระนางจึงยอมรับทุกอย่างเพื่อให้สำเร็จตามแผนการไถ่บาปมนุษย์ของพระเป็นเจ้า
คริสตชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการกอบกู้มนุษยชาติให้กลับมาเป็นลูก ของพระ พระนางมารีอาได้ร่วมมือกับพระเป็นเจ้า ไม่ว่าจะมีความยากลำบากสักเพียงใดอยู่ในเหตุการณ์นี้ ฯลฯ
ความดีและฤทธิ์กุศลที่พระนางมารีอาเสียสละ พระเยซูเจ้าทรงตอบแทน และคืนความดีทุกอย่างแด่แม่ของพระองค์
นั่นคือ โดยการยกเอาพระนางมารีอาไปสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ
บัดนี้เราเชื่อว่า พระนางมารีอาประทับอยู่บนสวรรค์กับพระเยซูเจ้าพระบุตรของพระนาง แต่พระนางก็ยังทรงรักและเมตตาพวกเราทุกคน
ลูกๆ ของพระนาง ด้วยว่า แทบเชิงกางเขน
ก่อนพระเยซูสิ้นพระชนม์บรรดาสานุศิษย์ต่างกลัว และหนีไปหมด แต่พระแม่กลับยืนอยู่แทบกางเขนกับนักบุญยอห์น
ณ ที่นั่น พระเยซูเจ้ามองลงมาจากกางเขน
แล้วตรัสว่า “ สตรีเอ๋ย นี่แน่ะ ลูกของท่าน
” และตรัสแก่ศิษย์นั้นว่า “ นี่แน่ะ
แม่ของเจ้า ” ตั้งแต่นั้นมาศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางไปอยู่ที่บ้านของตนเป็นเสมือนคำที่พระ เยซูเจ้ามอบชาวเราทุกคนให้เป็นลูกของแม่พระ และให้แม่พระดูแลรับเราเป็นลูกของพระนาง เป็นผู้เสนอวิงวอนตามคำภาวนาของเราที่มีต่อพระเป็นเจ้า แท้จริงคริสตชนมิได้นมัสการพระนางมารีอา
แทนพระเจ้า แต่ใช้คำว่า “ ศรัทธาภักดี
” ด้วยความเชื่อเก่าแก่ที่สืบทอดมาทางธรรมประเพณี
( Tradition ) ว่าพระนางเป็นผู้นำคำภาวนาของเราไปทูลขอต่อพระเป็นเจ้าเพื่อเราด้วยว่า คริสตชนรำลึกถึงความต่ำต้อย
และไม่สมควรของเรา คำ ภาวนาอาศัยพระนางมารีอาย่อมสมควรกว่า ความศรัทธาภักดีต่อพระนางมารีอาที่ถูกต้องก็คือ
พระนางจะพาลูกๆ ของพระนางทุกคนไปหาพระเจ้า “ เข้าหาพระเยซูเจ้าผ่านทางแม่พระ
” เป็นคำพูดเตือนใจเราคริสตชนอยู่เสมอ
วันฉลองแม่พระที่สำคัญ
1 มกราคม สมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเป็นเจ้า
2 กุมภาพันธ์แม่พระถือศีลชำระ(ถวายพระกุมารในวิหาร)
11 กุมภาพันธ์ แม่พระเมืองลูร์ด
25 มีนาคม สมโภชแม่พระรับสารจากอัครเทวดาคาเบรียล
13 พฤษภาคม แม่พระฟาติมา
2 กรกฎาคม แม่พระเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ
16 กรกฎาคม แม่พระแห่งภูเขาคาร์แมล
15 สิงหาคม สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
22 สิงหาคม พระนางมารีย์ราชินีแห่งสากลโลก
8 กันยายน แม่พระบังเกิด
15 กันยายน แม่พระมหาทุกข์
7 ตุลาคม ระลึกถึงแม่พระแห่งสายประคำ
21 พฤศจิกายน แม่พระถวายองค์ในพระวิหาร
8 ธันวาคม สมโภชแม่พระปฎิสนธินิรมล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น